เมนู

บอกว่า ปัญญินทรีย์ มีประมาณยิ่ง (เป็นใหญ่) จึงได้บอกมรรคที่ตนได้บรรลุ
แล้วนั่นแหละ.
บทว่า น เขฺวตฺถ ตัดบทเป็น น โข เอตฺถ. บทว่า เอกํเสน
พฺยากาตุํ
ความว่า เพื่อพยากรณ์โดยส่วนเดียว. พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรง
แสดงความพร้อมเพรียงแห่งอรหัตมรรค ด้วยบทว่า อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน.
ในพระสูตรนี้ พระเถระแม้ทั้ง 3 ได้กล่าวเฉพาะมรรคที่ตนได้บรรลุแล้ว
ด้วยประการดังพรรณนามาฉะนี้. แต่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส โดยผู้ดำรง
อยู่ในภูมิธรรมอื่น.
จบอรรถกถาสวิฎฐสูตรที่ 1

2. คิลานสูตร



ว่าด้วยคนไข้และผู้เปรียบด้วยคนไข้ 3 จำพวก



[461] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนไข้ 3 ประเภทนี้ มีอยู่ในโลก
คนไข้ 3 ประเภทคืออะไรบ้าง คือ คนไข้บางประเภทในโลกนี้ จะได้อาหาร
ที่เหมาะ หรือไม่ได้อาหารที่เหมาะก็ตาม ได้ยาที่เหมาะหรือไม่ได้ยาที่เหมาะ
ก็ตาม ได้คนพยาบาลที่สมควรหรือไม่ได้คนพยาบาลที่สมควรก็ตาม ก็คงไม่หาย
จากอาพาธนั้น
คนไข้บางประเภทในโลกนี้ จะได้อาหารที่เหมาะหรือไม่ได้อาหาร
ที่เหมาะก็ตาม ได้ยาที่เหมาะหรือไม่ได้ยาที่เหมาะก็ตาม ได้คนพยาบาลที่สมควร
หรือไม่ได้คนพยาบาลที่สมควรก็ตาม ก็คงหายจากอาพาธนั้น

คนไข้บางประเภทในโลกนี้ ได้อาหารที่เหมาะ ได้ยาที่เหมาะ ได้คน
พยาบาลที่สมควร จึงหายจากอาพาธนั้น ไม่ได้อาหารที่เหมาะ ... ยาที่เหมาะ
... คนพยาบาลที่สมควร ย่อมไม่หายจากอาพาธนั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในคนไข้ 3 ประเภทนั้น คนไข้ประเภทที่ได้
อาหารที่เหมาะ ได้ยาที่เหมาะ ได้คนพยาบาลที่สมควร จึงหายจากอาพาธนั้น
ไม่ได้อาหารที่เหมาะ ... ยาที่เหมาะ ... คนพยาบาลที่สมควร ย่อมไม่หายจาก
อาพาธนั้น เราอาศัยคนไข้ประเภทนี้แล จึงอนุญาตคิลานภัต (อาหารคนไข้)
... คิลานเภสัช (ยาแก้ไข้) ... คิลานุปัฏฐาก (ผู้พยาบาลคนไข้) แลก็เพราะ
อาศัยคนไข้ประเภทนี้ คนไข้ประเภทอื่น ๆ ก็จำต้องพยาบาลด้วย
นี้แล ภิกษุทั้งหลาย คนไข้ 3 ประเภท มีอยู่ในโลก
ฉันเดียวกันนั่นแล ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเปรียบด้วยคนไข้ 3 ประเภทนี้
มีอยู่ในโลก บุคคล 3 ไหนบ้าง คือบุคคลบางคนในโลกนี้ จะได้เห็นตถาคต
หรือไม่ได้เห็นตถาคตก็ตาม ได้ฟังธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วหรือไม่ได้
ฟังธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วก็ตาม ก็คงไม่เข้าทางคือความถูกทำนองใน
กุศลธรรมทั้งหลาย*
บุคคลบางคนในโลกนี้ ได้เห็นตถาคตหรือไม่ได้เห็นตถาคตก็ตาม
ได้ฟังธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วหรือไม่ได้ฟังธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศ
แล้วก็ตาม ก็คงเข้าทาง ...ได้
บุคคลบางคนในโลกนี้ ได้เห็นตถาคต ได้ฟังธรรมวินัยที่ตถาคต
ประกาศแล้วจึงเข้าทาง ... ไม่ได้เห็น ... ไม่ได้ฟัง ... ย่อมไม่เข้าทาง ...
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในบุคคล 3 ประเภทนั้น บุคคลประเภทที่
ได้เห็นตถาคต ได้ฟังธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว จึงเข้าทาง ... ไม่ได้
* พระบาลีว่า "เนว โอกฺกมติ นิยามํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ" หมายความว่า ไม่ได้ปัญญา
รู้ธรรมตามจริง

เห็น ... ไม่ได้ฟัง ... ย่อมไม่เข้าทาง ...นั้นใด เราอาศัยบุคคลประเภทนี้
จึงอำนวยการแสดงธรรม แลก็เพราะอาศัยบุคคลประเภทนี้ จึงจำต้องแสดงธรรม
แก่บุคคลประเภทอื่นด้วย
นี้แล ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเปรียบด้วยคนไข้ 3 ประเภท มีอยู่ในโลก.
จบคิลานสูตรที่ 3

อรรถกถาคิลานสูตร



พึงทราบวินิจฉัย ในคิลานสูตรที่ 2 ดังต่อไปนี้:-
บทว่า สปฺปายานิ ได้แก่ เป็นประโยชน์เกื้อกูล คือทำความเจริญ
ให้สูงขึ้นไป. บทว่า ปฏิรูปํ แปลว่า สมควร. ด้วยบทว่า เนว วุฏฺฐาติ
ตมฺหา อาพาธา
นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึง คนไข้ ที่เข้าขั้นตรีทูตแล้ว
ประกอบด้วยโรคลม และโรคลมบ้าหมูเป็นต้น ที่รักษาไม่ได้. ด้วยบทว่า
วุฏฺฐาติ ตมฺหา อาพาธา นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงอาพาธเล็ก ๆ น้อยๆ
แยกประเภทเป็น โรคอาเจียน หิตด้าน และไข้เปลี่ยนฤดูเป็นต้น.
ก็ด้วยบทว่า ลภนฺโต สปฺปายานิ โภชนานิ โน อลภนฺโต นี้
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสถึงอาพาธทุกชนิดที่จะหายได้ด้วยการรักษา. ก็ในสูตรนี้
ที่ชื่อว่า อุปัฏฐาก (ผู้พยาบาล) ที่เหมาะสมนั้น พึงทราบว่า ได้แก่ผู้ที่ฉลาด
ขยัน ไม่เกียจคร้าน ประกอบด้วยองค์คุณของผู้พยาบาลไข้.
บทว่า คิลานุปฏฺฐาโก อนุญฺญาโต ได้แก่ คิลานุปัฏฐากที่ทรง
อนุญาตไว้ว่า ภิกษุสงฆ์พึงให้. อธิบายว่า เมื่อภิกษุไข้นั้นไม่สามารถ จะพยาบาล